โพสต์เมื่อ: 2 พ.ค 2565 เวลา 11:54:06 น. อ่าน: 1,001 ครั้ง
ปัจจุบันผู้ประกอบการจำนวนมากที่กำลังจะเริ่มหรือเพิ่งเริ่มทำธุรกิจไปได้ไม่นาน และยังไม่มีโกดังจัดเก็บสินค้าหรือโรงงานเป็นของตัวเองนั้น หันมาให้ความสนใจกับ
โกดังสำเร็จรูปและโรงงานสำเร็จรูปกันมากขึ้น เพราะด้วยปัญหาเรื่องงบประมาณ ที่อาจจะต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงระยะเวลาในการสร้างโรงงานขึ้นมาใหม่นั้น กินเวลาค่อนข้างเยอะ จึงไม่แปลกที่โกดังและโรงงานสำเร็จรูปจะเป็นที่นิยมกันมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
โกดังและโรงงานสำเร็จรูปคืออะไร?
โกดังสำเร็จรูปหรือโรงงานสำเร็จรูป คือ โกดังและโรงงานในรูปแบบหนึ่ง ที่ก่อสร้างขึ้นจากชิ้นส่วนต่าง ๆ กว่า 90% โดยการใช้กระบวนการก่อสร้างจากการจัดเตรียม วัสดุ โครงสร้าง รวมไปถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ตามที่ได้ออกแบบไว้ จากนั้นจึงนำส่วนประกอบต่าง ๆ ที่ผลิตเสร็จแล้ว มาประกอบพร้อมติดตั้งในบริเวณพื้นที่จริงหรือสถานที่ตั้งที่ผู้ประกอบการรายนั้นกำหนดไว้ ภายในระยะเวลาอันสั้น และทำการเชื่อมหรือปรับแต่งให้น้อยที่สุด
โดยที่ผู้ประกอบการจะสามารถเลือกประเภทและขนาดได้ตามความต้องการ และการสร้างโกดังสำเร็จรูปในปัจจุบันได้รับการพัฒนาและออกแบบให้ตอบโจทย์กับการทำงานจริงมากขึ้น ซึ่งการสร้างโกดังในรูปแบบนี้ดูมีแนวโน้มว่าจะเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ และอาจจะเข้ามาแทนการสร้างโกดังหรือการสร้างโรงงานแบบปกติ เนื่องจากประหยัดงบประมาณและประหยัดเวลามากกว่า
จุดเด่นของโกดังและโรงงานสำเร็จรูปมีอะไรบ้าง?
1. ประหยัดงบประมาณในการก่อสร้าง
การสร้างโกดังสำเร็จรูปนั้น มีรูปแบบในการสร้างที่ชัดเจน เนื่องจากสามารถกำหนดจำนวนวัสดุและอุปกรณ์ที่ต้องการใช้ในการก่อสร้างได้อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูง ช่วยลดปัญหาการสั่งซื้อมาเกินความจำเป็น จนต้องเหลือทิ้งไปแบบไร้ประโยชน์ อีกทั้งยังช่วยลดงบประมาณค่าแรงของคนงานหน้าไซต์ลงได้ เนื่องจากระยะเวลาในการก่อสร้าง
โกดังสำเร็จรูปจะสั้นกว่าแบบปกติ รวมไปถึงช่วยลดความเสี่ยงของการปรับขึ้นราคาของวัสดุต่าง ๆ ในระหว่างการก่อสร้าง
2. ก่อสร้างได้อย่างรวดเร็ว
ตอบโจทย์สำหรับผู้ประกอบการที่มีข้อจำกัดด้านเวลา จำเป็นต้องรีบใช้โกดังหรือโรงงานในระยะเวลาอันสั้น เพราะการสร้างโรงงานสำเร็จรูปนั้นใช้เวลาในการก่อสร้างตั้งแต่เริ่มจนจบน้อยกว่าการก่อสร้างโรงงานแบบถาวรค่อนข้างมาก อีกทั้งลักษณะและแบบแผนของการสร้างในแต่ละโครงการมีความคล้ายคลึงกัน ทำให้ตัวบริษัทผู้รับเหมาเอง รวมไปถึงคนงานต่างมีความคล่องและชำนาญ อีกทั้งชิ้นส่วนต่าง ๆ ของโรงงานก็ถูกผลิตเสร็จมาแล้ว บริเวณหน้างานจึงมีเพียงแค่การติดตั้งและประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ เข้าด้วยกัน
3. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เนื่องจากกระบวนการในการก่อสร้างโกดังหรือโรงงานสำเร็จรูปนั้นรวดเร็วและง่ายกว่า จึงสามารถช่วยลดมลภาวะทางอากาศลงได้ อย่างฝุ่นจากไซต์งานที่เป็นสาเหตุของ PM 2.5 รวมไปถึงมลภาวะทางเสียงที่อาจจะเดือดร้อนและส่งผลกระทบต่อผู้ที่อยู่อาศัยในบริเวณนั้น
4. รื้อถอนและนำไปใช้ต่อได้
การย้ายสถานที่ตั้งเพื่อประหยัดต้นทุนในการขนส่งเป็นเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต หากผู้ประกอบการคนไหนที่ตัดสินใจซื้อโกดังหรือ
โรงงานสำเร็จรูปไปแล้ว แต่วันหนึ่งจำเป็นต้องย้ายโกดังด้วยปัจจัยบางอย่าง ก็สามารถทำได้ เนื่องจากชิ้นส่วนต่าง ๆ ของโกดังสำเร็จรูปหรือโรงงานสำเร็จรูปนั้นถูกผลิตมาจากโรงงานต้นทางและนำมาประกอบที่หน้างาน จึงไม่ใช่เรื่องยากหากต้องการย้ายสถานที่ หรือหากต้องการขยายหรือปรับเปลี่ยนโครงสร้างก็สามารถทำได้เช่นกัน
การเลือกบริษัทก่อสร้างโกดังและโรงงานสำเร็จรูปมีปัจจัยอะไรบ้าง?
1. ต้องมีความเชี่ยวชาญ
บริษัทที่รับก่อสร้างโกดังและโรงงานสำเร็จรูปแต่ละรายนั้น มีประสบการณ์ที่แตกต่างกันออกไป และด้วยรายละเอียดในการออกแบบ กระบวนการในการก่อสร้างชิ้นส่วนต่าง ๆ ของโกดัง ขั้นตอนการประกอบและติดตั้ง รวมไปถึงการเลือกซื้อวัสดุที่นำมาใช้ในการผลิตส่วนประกอบต่าง ๆ นั้นต้องเหมาะสมและมีคุณภาพ
2. มีผลงาน มีคนรับรอง และตรวจสอบได้
เมื่อเรามีบริษัทในใจแล้ว ก่อนที่จะตัดสินใจเซ็นสัญญา ควรศึกษาข้อมูลในเว็บไซต์ของบริษัทก่อน หรือสามารถขอดูผลงานการก่อสร้างโกดังสำเร็จรูปที่เคยทำมา อีกทั้งยังสามารถสอบถามข้อมูลรวมไปถึงความคิดเห็นต่าง ๆ เพิ่มเติมจากลูกค้ารายเก่าได้ ทั้งมาตรฐานในการก่อสร้าง คุณภาพงาน วิธีการทำงาน และการควบคุมเวลาและงบประมาณในการก่อสร้างดีแค่ไหน
3. มีมาตรฐานในการทำงาน
มาตรฐานการทำงานของแต่ละบริษัท สามารถสังเกตได้ตั้งแต่การติดต่อพูดคุยรายละเอียดกันในครั้งแรก รวมไปถึงความแม่นยำของการให้ข้อมูล ตัวเอกสารต่าง ๆ ความตรงต่อเวลา และการรักษาคำพูด นอกจากนี้ก็ควรมีเอกสารแผนการทำงานที่ชัดเจนตั้งแต่เริ่มจนจบโครงการ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้เห็นถึงมาตรฐานและความน่าเชื่อถือของบริษัทนั้น ๆ